นี่คือ Script ที่จะเปลี่ยนรูปแบบการเขียนโค้ดของงานคุณไปอย่างสิ้นเชิง และทำให้มันง่ายขึ้นด้วย 999s-bridge ของพวกเรา
test-get-name
มาทดลองใช้งานในส่วนนี้กันต่อ
paramsSort
ที่เราได้ตั้งใน schema นั้นเราจะนำมาใช้ get
ข้อมูลที่ Event ได้รับมาจากตัวอย่างเราทำการ get
มาสองข้อมูลก็คือ name
และ age
Parameter | Type | Description | Note |
---|---|---|---|
schema | string | SchemaObject | ชื่อที่เราทำการบันทึกด้วยฟังก์ชั่น registerAs หรือ Object ที่เราได้จากการ getSchema | getSchema ใช้งานได้เมื่อทำการ createSchema |
fn | fun(ctx) | ฟังก์ชั่นสำหรับรับข้อมูลเมื่อมีการ Trigger Event | |
isNet (optional) | boolean | เป็นการกำหนดว่าจะสร้าง Event แบบ Local หรือ Net |
NS.onLocalEvent(schema, fn)
- ใช้เพื่อสร้าง Event สำหรับใช้ภายใน (Client only or Server only)NS.onNetEvent(schema, fn)
- ใช้เพื่อสร้าง Event สำหรับใช้ภายในและภายนอก (Client and Server)
sendEvent
เราต้องใส่เป็นชื่อของ schema ที่เราได้ทำการบันทึกด้วยฟังก์ชั่น registerAs
Parameter | Type | Description | Note |
---|---|---|---|
schema | string | SchemaObject | ชื่อที่เราทำการบันทึกด้วยฟังก์ชั่น registerAs หรือ Object ที่เราได้จากการ getSchema | getSchema ใช้งานได้เมื่อทำการ createSchema |
isNet | boolean | เราจะทำการ Trigger Event ภายในหรือไปยังภายนอก Client -> Client, Server -> Server หรือ Client -> Server, Server -> Client | |
… | params | ข้อมูลที่คุณจะส่งไปยัง Event |
TriggerEvent
ปกติระบบจะไม่มีการตรวจสอบ Types ของ Parameter ที่ส่งเข้ามาว่าถูกต้องตามที่ Event ต้องการหรือไม่ แต่ถ้าหากคุณใช้ sendEvent
ระบบของเราจะทำการตรวจสอบ Types ตามที่คุณได้ใช้ฟังก์ชั่น makeTypes
ในการกำหนดไว้ ซึ่งจะช่วยให้งานของคุณเกิดความผิดพลาดได้น้อยยิ่งขึ้น
นอกเหนือจากนี้คุณยังสามารถใช้ Alias function ได้อีกด้วย
NS.sendLocalEvent(schema, ...)
- เพื่อ Trigger Event ภายใน (TriggerEvent)NS.sendNetEvent(schema, ...)
- เพื่อ Trigger Event ภายนอก (TriggerServerEvent, TriggerClientEvent)